วิธีขับรถเกียร์กระปุก

เกียร์กระปุก หรือเกียร์ธรรมดา จะมีระบบการส่งกำลังในรถยนต์แบบดั้งเดิม ที่ตัวผู้ขับขี่ หรือผู้ควบคุมยานพาหนะ เป็นคนควบคุมการทำงานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเหยียบ การปล่อนคลัตช์ การเข้าเกียร์ รวมไปถึงการเปลี่ยนเกียร์ โดยที่ระบบทั้งหมดจะถูกควบคุมโดยการทำงานด้วยเมนนวลทั้งหมด ซึ่งถ้าหากใครที่ไม่เคยใช้งานมาก่อน หรือไม่เคยสัมผัสรูปแบบการทำงานมาก่อน ก็อาจจะทำให้เกิดความสับสนได้ว่าจะเริ่มต้นการใช้งานอย่างไร หรือเริ่มเหยียบคลัตช์ตอนไหน และเริ่มเร่งเครื่องยนต์เมื่อไหร่ เพราะการขับรถที่มีเกียร์กระปุก จะมีอุปกรณ์เพิ่มเติม รวมไปถึงตัวกำหนดนการใช้งานที่มากกว่าเกียร์ออโต้ ซึ่งวิธีขับรถเกียร์กระปุกขั้นต้นจะมีวิธีต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • ขั้นตอนที่ 1 : การขับรถที่มีเกียร์กระปุก ก็จะเหมือนกับการขับชี่รถยนต์ทั่วไป ซึ่งก็คือให้ปรับเบาะให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ปรับกระจกข้าง กระจกมองหลัง และคาดเข็มขัดนิรภัย เป็นขั้นตอนพื้นฐานในการขับชี่รถทุกประเภท ก่อนที่จะค่อยมาตรวจสอบตำแหน่งของเกียร์ก่อนที่จะสตาร์ทว่าอยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่างหรือไม่ ก่อนที่จะเหยียบคลัตช์ที่จะอยู่แป้นฝั่งซ้ายเสมอ หลังจากตรวจเช็กทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ให้ทำการบิดกุญแจเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ทันที
  • ขั้นตอนที่ 2 : หลังจากที่สตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมขับชี่แล้ว ถึงเวลาออกตัวเหยียบคลัตช์จนสุด ก่อนที่จะเลื่อนตำแหน่งเกียร์ไปที่เกียร์ 1 จากนั้นค่อยๆ ผ่อนแรงเท้าที่กำลังเหยียบคลัตช์ โดยที่ให้คอยฟังเสียงเครื่องยนต์ หรือให้สังเกตว่ารถเริ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้าบ้างแล้วหรือยัง ก่อนที่จะค่อนๆ ใช้เท้าขวาค่อยๆ เยียบคันเร่งพร้อมกับปล่อยคลัตช์ให้จนสุด
  • ขั้นตอนที่ 3 : เมื่อขับรถมาได้สักพักจนเสียงเครื่องยนต์เริ่มตื้อ ตัน หรือเข็มวัดรอบเครื่องอยู่ที่ประมาณ 2,000 – 3,000 รอบ ค่อยๆ ทำการเปลี่ยนเกียร์ โดยการผ่อนเท่าที่เหยียบคันเร่ง และให้เหยียบคลัตช์ให้สุด ก่อนที่จะเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ไปที่เกียร์ 2 ก่อนที่จะค่อยๆ ผ่อนเท้าจากแป้นคลัตช์จนสุด พร้อมกับเหยียบคันเร่งเหมือนตอนเข้าเกียร์ 1 ก่อนที่จะเรียงลำดับการเข้าเกียร์ถัดไปจาก 3 4 5 6 ตามลำดับ
  • ขั้นตอนที่ 4 : เมื่อถึงเวลาที่รถต้องชะลอความเร็ว หรือจอดหยุดกับที่ ให้ทำการปล่อยเท้าขวาออกจากแป้นคันเร่ง แล้วค่อยๆ เหยียบแป้นเบรก โดยที่ให้ออกแรงที่เพียงพอต่อปริมาณความเร็ว เพื่อให้รถหยุดช้าลงเรื่อยๆ และเมื่อรถถูกลดความเร็วให้เหยียบคลัตช์ แล้วทำการปรับลดเกียร์ตามลำดับ โดยที่ขั้นตอนการจอดรถไม่ควรจอดให้รถหยุด หรือชะงักภายในทีเดียว เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่รถประเภทไหน ก็ล้วนแล้วแต่มีข้อดี และข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไปเสมอ ซึ่งการขับรถที่มีเกียร์กระปุกก็เช่นเดียวกัน เพราะสิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องคำนึงได้เสมอก็ไม่ห้ามประมาท โดยเฉพาะเวลาที่อยู่บนท้องถนน เพราะไม่ได้หมายถึงแค่เราเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคนรอบๆ อีกมากมาย เพราะฉะนั้นการมีสถิติ และขับขี่ด้วยความปลอดภัย ไม่ประมาณ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด